Facebook Profile, Page และ Group ต่างกันยังไง?
By facebookgoo on Jun 16, 2010 with Comments 2
ช่วงหลังๆ นี้ เราเริ่มจะได้การใช้ facebook สำหรับธุรกิจและองค์กร รวมถึงการสร้าง Page เพืื่อจุดประสงค์ต่างๆ มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งก็มีรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไปจากการใช้งานทั่วไปอยู่บ้าง ทาง facebookgoo ก็เลยขอมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์บทความที่จะให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้งาน facebook ในลักษณะนี้บ้างครับ
เหตุผลที่อยากจะเขียนบทความเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง facebook profile, page และ group นั้น ก็เนื่องมาจากได้เห็นการใช้งานของทั้งส่วนบุคคล, กลุ่มคน, องค์กร และธุรกิจ ที่บางครั้งมีความตั้งใจอยากจะสร้างตัวตนขึ้นมาใน facebook แต่ด้วยความที่ยังไม่เข้าใจภาพรวมและข้อจำกัดของการใช้งานในแต่ละรูปแบบ ทำให้ใช้งานไปซักพักก็ต้องเผชิญกับข้อจำกัดต่างๆ เป็นการเสียเวลาเสียโอกาสกันไปครับ
กรณีที่เห็นผิดพลาดกันบ่อยๆ เช่นเป็นบริษัทใหญ่โต แต่ไปใช้ Profile ธรรมดาที่จำกัดเพื่อนอยู่ที่ 5,000 คน ทำให้ในที่สุดต้องกลับมานับหนึ่งสร้าง page ใหม่ เพื่อจะหนีข้อจำกัดนี้ หรือบางคนต้องการจะสร้างกลุ่มที่เป็นกลุ่มปิดรับเฉพาะคนที่กำหนดไว้ แต่ดันไปสร้างเป็น Page ที่ไม่มีสิทธิ์ปฎิเสธคนที่อยากเข้าร่วม
ความผิดพลาดทั้งหมดนี้จะไม่เกิดขึ้นครับ ถ้าเรารู้จักความแตกต่างของ profile, page และ group ถึงข้อดี ข้อด้อย และข้อจำกัดของแต่ละรูปแบบ ก่อนที่จะตัดสินใจว่ารูปแบบไหนที่เหมาะกับการใช้งานของเรามากที่สุดครับ
เพื่อให้เห็นการเปรียบเทียบชัดเจน ขอนำมาแชร์เป็นตารางตามนี้นะครับ
Profile | Page | Group | |
จำนวนสมาชิกสูงสุด | 5,000 | ไม่จำกัด | ไม่จำกัด (มีข้อแม้) |
การส่งข้อความให้สมาชิก | ครั้งละ 20 คน | ส่งไปที่ updates ไม่ใช่ inbox (ไม่มีการแจ้งเตือนให้ผู้รับ) | ไม่เกิน 5,000 คน (ผู้รับได้รับแจ้งเตือนด้วย) |
การจัดการรายชื่อสมาชิก (เพิ่ม ลบ รายชื่อ) | ทำได้ | ไม่สามารถปฎิเสธผู้ เข้าร่วม แต่ลบออกภายหลังได้ | ทำได้ |
การแจ้งเตือน | มี | ไม่มี | ไม่มี |
การได้รับเชิญต่างๆ | มี | ไม่มี | ไม่มี |
แอพพลิเคชั่นเสริม | มี | จำกัด | ไม่มี |
ข้อมูลปรากฎใน Google | ไม่ขึ้น | มี | ไม่ขึ้น |
สถิติผู้เข้าชม | ไม่มี | มี | ไม่มี |
ตั้งชื่อลิงค์ได้เช่น www.facebook.com/xxxx | ได้ | ได้ | ไม่ได้ |
ระบบแชท | มี | ไม่มี | ไม่มี |
ระบบเว็บบอร์ด (Discussion Board) | ไม่มี | มี | มี |
การสร้างแบนเนอร์สำหรับติดที่เว็บ ข้างนอก | Badge | Like Box | ไม่มี |
กำหนดกลุ่มผู้ที่เห็นโพสท์ | ได้ด้วย privacy setting | ได้ตามพื้นที่และ ภาษา | ไม่ได้ |
การปรับแต่งหน้าโปรไฟล์ | ด้วยแอพพลิเคชั่น | ด้วย FBML | ไม่ได้ |
อัพเดทด้วยมือถือ | ได้ | ได้ | ไม่ได้ |
ลิงค์กับ Twitter | ได้ (ผ่านแอพพลิเคชั่น) | ได้ | ไม่ได้ |
การอัพโหลดรูป / วีดีโอ | วิธีปกติ + แอพพลิเคชั่น | วิธีปกติ | วิธีปกติ |
การโฆษณา | ไม่ | สนับสนุน | ไม่ |
สรุปข้อดีข้อเสียของการใช้งานประเภทต่างๆ
Facebook Profile
จุดเด่น : ความเป็นส่วนตัวสูง, การแจ้งเตือนละเอียด, ประยุกต์ใช้แอพพลิเคชั่นได้มากมาย, แชทได้
จุดด้อย : จำกัดจำนวนสมาชิกและการส่งข้อความ, ต้อง confirm เพื่อนทีละคน, ต้องคอยนั่งปฎิเสธ invite, ไม่มีสถิติ, ไม่ขึ้นใน google
เหมาะสำหรับ : การใช้งานส่วนตัว, ธุรกิจหรือบริการที่เปิดรับเฉพาะสมาชิก, Customer Service (เพราะมีระบบแชท, การแจ้งเตือนละเอียด)
Facebook Page
จุดเด่น : ไม่จำกัดจำนวนสมาชิก, เนื้อหาปรากฎใน google, มีสถิติผู้เข้าชม, ตกแต่งได้ด้วย FBML, โปรโมทได้ด้วย Like box
จุดด้อย : แอพพลิเคชั่นน้อย, ไม่มีการแจ้งเตือน, ส่งข้อความส่วนตัวไม่เด่น, ไม่สามารถปฎิเสธผู้ต้องการเข้าร่วม
เหมาะสำหรับ : การประชาสัมพันธ์ธุรกิจทั่วไป, การทำ Branding, การสร้าง Community
Facebook Group
จุดเด่น : มีสมาชิกได้จำนวนมาก, ส่งข้อความถึง inbox สมาชิกได้, สามารถจัดการรายชื่อผู้ร่วมกลุ่มได้ดี
จุดด้อย : ปรับแต่งหน้าตาไม่ได้, ไม่มีการแจ้งเตือน, ไม่สามารถตั้งชื่อลิงค์, ไม่เหมาะสำหรับการโปรโมท
เหมาะสำหรับ : สร้างกลุ่มรับจดหมายข่าว, การติดต่อสื่อสารกันภายในทีมงาน
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกท่านที่กำลังจะสร้าง Page หรือ Group ของตัวเองนะครับ!
ส่วนท่านใดที่สนใจอยากจะเรียนรู้กระบวนวิธีในการสร้างและจัดการดูแล facebook page แบบเจาะลึกในรายละเอียด ทางเราก็มี Workshop “การ ใช้งาน facebook สำหรับธุรกิจและองค์กร” ซึ่งจะจัดขึ้นเป็น ประจำทุกๆ เดือนด้วยครับ คลิ กที่นี่เพื่ออ่านรายละเอียดได้ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น